Canon EOS Ra
ก่อนที่เราจะเขาเรื่องกล้อง Canon EOS Ra เราก็ต้องขอย้อยเวลาไปสักพักใหญ่ๆก่อนนะครับ Canon ได้ผลิตกล้องถ่ายภาพที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์มาครั้งแรกตั้งแต่ปี 2005 คือCanon EOS 20Da และ Canon EOS 60Da ในปี 2012 โดยกล้องที่กล่าวไปนั้นมีขนาดเซนเซอร์ที่ APS-C แล้วทำไม Canon ถึงต้องออกกล้องที่ถ่ายภาพทางดาราศาสตร์โดยเฉพาะ แล้วกล้องถ่ายภาพทั่วไปไม่สามารถถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ได้หรอ จริงๆแล้วกล้องถ่ายภาพทุกตัวสามารถถ่ายภาพดาราศาสตร์ได้หมดนั้นละครับ แต่กล้องถ่ายภาพที่ถูกออกแบบมาให้ถ่ายภาพทางดาราศาสตร์นั้นจะมีฟิลเตอร์พิเศษที่ถูกเพิ่มเข้าไปในหน้าของ CCD หรือ CMOS ว่าง่ายๆก็หน้าของเซนเซอร์กล้องนั้นละครับ โดยฟิลเตอร์ตัวนี้มีชื่อว่า Hydrogen alpha wavelength หรือเรียกสั่นๆว่า H-alpha โดยจะลงลึกอีกหน่อยก็เจ้าฟิลเตอร์ตัวนี้จะทำให้กล้องรับสัญญาณแสงสีแดงที่ความถี่ 656nm เอาง่ายๆคือไวแสงสีแดงมากขึ้นนั้นเอง ทำไมถึงต้องทำให้กล้องนั้นไวต่อแสงสีแดงมากขึ้นด้วยทั้งทีกล้องทั่วไปก็สามารถถ่ายสีแดงได้อยู่แล้ว จริงๆแล้วโดยปกติคนทั่วๆไปก็จะถ่ายภาพทางดาราศาสตร์แค่ทางช้างเผือกกับเส้นแสงดาว หรือเรียกอีกชื่อว่าดาวหมุนนั้นเอง แต่กล้องตัวนี้จะเหมาะกับนักดาราศาสตร์สมัครเล่น และดาราศาสตร์ที่คอยสังเกตุการทางดาราศาสตร์ เพราะการที่มี ฟิลเตอร์ Hydrogen alpha ทำให้เก็บแสงสีแดงของวัตถุด้านลึกในท้องฟ้า หรือที่หลายๆคนอาจจะคุ้นกับชื่อว่า Deep sky Objects นั้นเอง โดยการที่มีฟิลเตอร์ Hydrogen alpha นั้นทำให้กล้องที่มีฟิลเตอร์ตัวนี้เก็บแสงสีแดงได้ไวกว่ากล้องทั่วไปถึง 4เท่าโดยใช้เวลาในการถ่ายภาพแต่ละใบที่เท่ากันเลยทีเดียว โดยปี 2019 Canon ได้ออก Canon EOS Ra ซึ่งมีขนาดเซนเซอร์ Full Frame ที่มาพร้อมกับ Digic 8 Image Processor ทำให้เรื่องการจัดการสัญญาณรบกวนหรือ Noise ไม่ว่าจะเป็นการเปิดม่านชัดเตอร์เป็นเวลานานหรือใช้ ISO สูงๆนั้น ยังคงคุณภาพที่ดีเยี่ยมและได้ภาพที่สัญญาณรบกวนต่ำ และยังมีการขยายภาพในเวลาโฟกัสถึง 30x เลยที่เดียวทำให้การปรับโฟกัสทำให้ง่ายขึ้นเพราะดวงดาวมีขนาดเล็กฟังชั่นนี้เลยจำเป็นพอสมควรเลยครับ เราไปดูภาพที่ได้จากกล้อง Canon EOS Ra และเทียบกับ Canon EOS 5D Mark IV กันเลยครับผม สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้ครับ